เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2560 นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว ได้พาคุณอี้ดโปงลางามท่องเที่ยวหนองบัวโฮมสเตย์ ได้ทำกิจกรรมหลายๆอย่าง เช่น พาช้างอาบน้ำ นั่งช้างชมวิถีชีวิตของชาวกวย เป็นต้น
![]() |
ถ่ายภาพร่วมกันคุณอี้ดโปงลาง |
การท่องเที่ยวในรูปแบบโฮมสเตย์ (หนองบัวโฮมสเตย์) ถือเป็นการท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติและคนไทย กำลังนิยมกันอย่างแพร่หลาย หนองบัวโฮมสเตย์ถือว่าเป็นสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวนิยมในตอนนี้ เพราะเรามีกิจกรรมมากมายให้นักท่องเที่ยวสัมผัสอย่างใกล้ชิด ซึ่งหนองบัวโฮมสเตย์ได้รับการประเมิน
![]() |
ช้างแสนรู้ใส่บาตร |
![]() |
ช้างแสนรู้ใส่บาตร |
ประวัติความเป็นมา
บ้านหนองบัวมีหนองน้ำขนาดใหญ่มีเนื้อที่จำนวน 24 ไร่
อยู่ทางทิศเหนือของหมู่บ้านในหนองน้ำมีบัวหลวงขึ้นเป็นจำนวนมาก
จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านหนองบัว” สภาพหมู่บ้านถนนเป็นทางเกวียน ถนนดิน เริ่มก่อตั้งในปี
พ.ศ.2498 ประมาณ ๖๓ กว่าปีมาแล้ว
คนกลุ่มแรกที่อพยพมาก่อตั้งหมู่บ้าน โดยมีนายเทียม อินทร์สำราญ นายโพธิ์ ศาลางาม
นายดำ ศาลางาม นายแอม ผายสุวรรณ นายลา ศาลางาม และมีสมาชิกติดตามมาด้วยประมาณ 65
ครอบครัว โดยได้แต่งตั้งนายเทียม อินทร์สำราญ เป็นผู้ใหญ่บ้านหนองบัวคนแรก
มีนายโพธิ์ ศาลางาม และนายปาน ศาลางาม เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองบัว
คนกลุ่มแรกที่มาตั้งหมู่บ้านส่วนใหญ่อพยพมาจากบ้านตากลาง
หมู่ที่ 9 ตำบลกระโพ และอพยพจากบ้านตาทิตย์ หมู่ที่ 8 ตำบลกระโพ บางกลุ่ม
กลุ่มที่อพยพมาจากบ้านตากลาง หมู่ที่ 9 เป็นชุมชนชาวส่วย หรือ กูย
ที่เคยอาศัยอยู่ในประเทศลาวตอนใต้แถบจำปาศักดิ์ อัตตปือ และแสนแป
ชาวกูยมีภาษาพูดเป็นของตนเอง จัดอยู่กลุ่มภาษาตระกูลมอญ เขมร แต่ภาษากูย
ไม่มีภาษาเขียนเป็นของตนเอง
จึงสืบทอดวัฒนธรรมโดยการบอกเล่าสืบต่อกันมาจากคนเฒ่าคนแก่
สาเหตุที่อพยพมาจากหมู่บ้านเดิมเพราะมีที่ทำมาหากินน้อย
หมู่บ้านเดิมห่างไกลจากที่ทำกิน คมนาคมไม่สะดวก ห่างไกลจากแหล่งน้ำ หมู่บ้านหนองบัวมีสถานที่ตั้งมีความอุดมสมบูรณ์ทุกด้าน
ทั้งทางด้านป่าไม้ แหล่งน้ำ และมีทำเลเหมาะในการทำการเกษตร
บ้านหนองบัวมีระยะทางจากบ้านหนองบัวถึงตำบลกระโพ
5 กิโลเมตร ระยะทางจากบ้านหนองบัวถึงอำเภอท่าตูม 36 กิโลเมตร
ระยะทางบ้านหนองบัวถึงจังหวัดสุรินทร์ 56
กิโลเมตร
บ้านหนองบัว มีผู้ใหญ่บ้านดำรงตำแหน่งทั้งหมด 3
คน คือ
1.นายเทียม อินทร์สำราญ
2.นายวัฒนา ผายสุวรรณ
3.นายธวัชชัย ศาลางาม
(เป็นผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบัน)
แผนที่หมู่บ้าน
ที่ตั้งของหมู่บ้าน
ทิศเหนือ จดบ้านยางบ่อภิรมย์ ตำบลดูนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี
จังหวัดสุรินทร์
ทิศใต้ จดบ้านตระมูง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม
จังหวัดสุรินทร์
ทิศตะวันออก
จดบ้านตากลาง หมู่ที่ 13 ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์
ทิศตะวันตก
จดบ้านตาทิตย์ หมู่ที่ 8 ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์
สภาพทางภูมิศาสตร์
บ้านหนองบัว
เป็นป่าดินเนินสูง ทิศใต้ของหมู่บ้านจดป่าสงวนดงภูดิน มีเนื้อที่ประมาณ 7,000 ไร่ พื้นที่หมู่บ้านทั้งหมด 3,000 ไร่ เป็นพื้นที่นา 1,950 ไร่ และพื้นที่สวน 150
ไร่ และเป็นพื้นที่ทำเล 900 ไร่
จำนวนประชากร อาชีพ
รายได้
จำนวนประชากร
บ้านหนองบัว มีจำนวนครัวเรือน 152
ครัวเรือน
มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 738 คน จำแนกเป็นเพศชาย 362 คน
เพศหญิง 376 คน
ข้อมูลสำรวจ ณ เดือนมีนาคม 25๖๐
อาชีพและรายได้
บ้านหนองบัว ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม
มีการทำนาเป็นอาชีพหลัก พื้นที่ทำนาทั้งหมด 1,950
ไร่ อาชีพรอง ได้แก่
อาชีพเลี้ยงสัตว์ อาชีพค้าขาย อาชีพปลูกพืชอาหารช้าง อาชีพแกะสลักจากงาช้าง แกะสลักจากกระดูกสัตว์
แหวนหางช้าง กำไลหางช้าง ตะขอช้าง และอื่นๆ (OTOP
ชุมขน) และรับจ้างทั่วไป
การวิเคราะห์ศักยภาพของหมู่บ้าน
จุดแข็ง
1.
หมู่บ้านโฮมสเตย์ (Homestay)
ซึ่งได้ผ่านการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยจากกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา ในปี พ.ศ.
2549 และ พ.ศ. 2552
2.มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยมีป่าไม้ และเป็นหมู่บ้านมีวิถีชีวิตของคนกับช้าง
3.
ด้านความสามัคคีในชุมชน
4.
การอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น
โดยมีประเพณีที่ทางหมู่บ้านที่จะต้องจัดประเพณีเป็นประจำทุกปี คือ
ประเพณีบวชนาคช้าง ประเพณีกฐินช้าง และวันช้างไทย
5.
แหล่งผลิตข้างหอมมะลิ
6.แหล่งผลิตพืชอาหารช้าง
หมู่บ้านหนองบัวเป็นชุมชนที่ปลูกพืชอาหารสร้างเพื่อเป็นอาชีพเสริม
จุดอ่อน
1.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ด้านถนนสายหลักเข้าหมู่บ้าน การสัญจรไปมาไม่สะดวก ขาดแหล่งน้ำทางการเกษตร
ระบบประปาหมู่บ้านไม่ได้มาตรฐาน
2.ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนาปีละหนึ่งครั้ง
(นาปี) ทำให้มีรายได้ไม่แน่นอนและเกิด
จากภัยธรรมชาติ ได้แก่ ภัยน้ำท่วม และภัยแล้ง
โอกาส
1.การได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ
หน่วยงานพัฒนาชุมชน สำนักงานท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว
2.บ้านหนองบัว
มีป่าไม้ และมีแหล่งน้ำ อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวในตำบล
อุปสรรค
1.หมู่บ้านหนองบัวจะประสบกับอุปสรรคจากภัยธรรมชาติ
คือ น้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำ
ความโดดเด่นในการพัฒนา
4 ด้าน
1) ด้านสถานที่
มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
สามารถสร้างแรงดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมได้อย่างสม่ำเสมอ
และมีภูมิทัศน์สภาพแวดล้อมที่สวยงาม ปลอดภัย
แหล่งท่องเที่ยว
ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุด คือ ศาลาเอราวัณ และสุสานช้าง วัดป่าอาเจียง
ที่มีแห่งเดียวในโลก ซึ่งเป็นสถานที่ ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ให้ผู้คนเข้ามาศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย
ช้างนักรบคู่พระเจ้าแผ่นดินเมื่อครั้งออกรบในสมัยแต่ก่อน
แหล่งท่องเที่ยวอีกที่หนึ่ง คือ
หนองบัวโฮมสเตย์ เป็นสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวมาสัมผัสทั้งแบบมาเช้าเย็นกลับ
และพักค้างแรมกับเจ้าของบ้าน ถ้าเป็นแบบมาเช้าเย็นกลับส่วนมากจะมาเรียนรู้ตามจุดเรียนรู้ต่าง
ๆ เช่น เรื่องศาลปะกำ เรื่องสุสานช้าง เรื่องบ้านโบราณ และอื่นๆอีกมากมาย
2) ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีผลิตภัณฑ์ OTOP ที่เป็นอัตลักษณ์โดดเด่นและมีอาหารพื้นถิ่นรองรับการบริการนักท่องเที่ยว
อาชีพแกะสลักจากกระดูกช้าง
ผลิตภัณฑ์แหวนหางช้าง ผลิตภัณฑ์พวงกุนแจ การทำปุ๋ยอินทรีจากมูลช้าง (OTOP ชุมขน) ผลิตภัณฑ์ตะขอช้าง และรับจ้างทั่วไป
ส่วนเรื่องอาหาร
ต้มไก่ใส่ใบมะขามอ่อน ปลาจากลำน้ำชีมูลทอด น้ำพริกปลาช่อน ส้มตำรสเด็ด และอาหารตามฤดูกาล
เช่น แกงขี้เหล็ก แกงหอย แกงเห็ด แกงหน่อไม้ เป็นต้น
3)
ด้านการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยชุมชนมีการอนุรักษ์ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและศิลปวัฒนธรรมประเพณี
โดยสามารถถ่ายทอดและเป็นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญาของชุมชน
- สืบสานตำนานหมอช้าง โดยการปะชิหมอช้าง
เป็นการสืบทอดวัฒนธรรมที่หาดูได้ยาก
-
ประเพณีวัฒนธรรมที่โดดเด่นของหมู่บ้านอีกอย่างหนึ่งคือ กฐินช้าง
ซึ่งได้ทำขบวนแห่บนเกวียนประดับด้วยผ้าไหมอย่างสวยงาม
แล้วให้ช้างเป็นผู้ดึงขบวนแห่กฐินร่วมกับชุมชน
4) ด้านการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
มีแกนนำ หรือ
ผู้นำชุมชนที่มีความเข้มแข็งและมีความพร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนหมู่บ้าน
และประชาชนในชุมชนมีความรัก
ความสามัคคีและแสดงความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
กิจกรรมการออมวันละบาท ออมทรัพย์
โดยกิจกรรมดังกล่าวได้เริ่มจัดตั้งขึ้นมา
เมื่อปี
2550 โดยการแนะนำของกรมพัฒนาชุมชนอำเภอ ท่าตูม
โดยที่ตำบลให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 1๑ ปี ผลการดำเนินการมีสมาชิก 1๓๑ คน โดยมีการถือหุ้น หุ้นละ 100 บาท
มีเงินดำเนินการอยู่ 1๒0,000 บาท
กิจกรรมกองทุนหมุนเวียน กลุ่มอาชีพ
โดยกิจกรรมดังกล่าว
องค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ ได้ให้เงินมาหมุนเวียน จำนวน 100,000 บาท ซึ่งเป็นเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเน้นกลุ่มแม่บ้านของชุมชน
ซึ่งจะเก็บเงินในช่วงเดือนสิงหาคม ร้อยละ 6 บาท ต่อปี ได้นำดอกเบี้ยมาปล่อยเงินให้กับกลุ่มแม่บ้าน
เพื่อมาบริหารการต่อไป บริหารจัดการโดย นายประชิด บุญเหลือ
กิจกรรมปุ๋ยอัดเม็ด
กิจกรรมปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด
บ้านหนองบัว ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕
โดยได้รับงบประมาณจากกองทุนหมู่บ้าน เพื่อการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้ในหมู่บ้าน
ลดต้นทุนการใช้จ่ายเงินในการซื้อปุ๋ยเคมี ในการเกษตร
ซึ่งการผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดนี้ เป็นการผลิตขึ้นมาเพื่อใช้เอง
ไม่ได้ผลิตเพื่อประโยชน์ทางการค้า แต่อย่างใด โดยใช้งบทั้งสิ้น ๓๐,๐๐๐ บาท ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วเป็นระยะเวลา ๒ ปี มีสมาชิกทั้งหมด ๓๐ ครัวเรือน
กิจกรรมปลูกหญ้าอาหารช้าง
ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์จัดทำโครงการนำช้างคืนถิ่นพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิด เพื่อส่งเสริมให้ชาวช้างมีรายได้เพิ่มเติม
ไม่ต้องนำช้างไปเร่ร่อน กระตุ้นเศรษฐกิจรายได้ในชุมชน
ด้วยการส่งเสริมการปลูกหญ้าบาน่า ซึ่งเป็นหญ้าที่ใช้เป็นอาหารช้าง
และยังเป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลมาก มีสมาชิกที่ปลูกหญ้าบาน่าทั้งสิ้น ๓๓ ครัวเรือน ซึ่งรวมรายรับในปี ๒๕๕๙ – ๒๕๖0 ทั้งหมดโดยประมาณ ๒๔๓,๖๐๐ บาท
กิจกรรมกลุ่มโฮมสเตย์
กลุ่มโฮมสเตย์บ้านหนองบัว หมู่ ๑๔
จัดตั้งขึ้น เนื่องจากการเปิดโครงการนำช้างคืนถิ่นพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิด
เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่บ้านช้าง
ที่สนใจศึกษาวิถีชีวิตของคนกับช้าง การดำเนินชีวิตของชาวกวย
จึงเป็นเหตุผลให้ทางองค์การบริการส่วนตำบลกระโพ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
จึงจัดตั้งกลุ่มโฮมสเตย์บ้านหนองบัว หมู่ ๑๔ ขึ้นมา
เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
พร้อมด้วยกิจกรรมการแสดงของชุมชน
ทำให้เกิดรายได้ในชุมชนตลอดมาซึ่งมีสมาชิกที่ร่วมเข้าโครงการทั้งหมด 30 ครัวเรือน โดยค่าที่พักนั้นคิดเป็น ๑๕๐ บาท /๑ คน/ ๑ คืน
,ค่าอาหารมื้อเช้า ๘๐ บาท, มื้อเที่ยงและเย็นมื้อละ ๑๕๐ บาท คิดเป็นเงิน ๓๘๐ บาท
กิจกรรมการทำผลิตภัณฑ์ OTOP
ชุมชนบ้านหนองบัว
หมู่ ๑๔ มีกลุ่มที่ทำผลิตภัณฑ์สินค้าโอท็อบ 10 กลุ่ม ๑0 ผลิตภัณฑ์
เป็นสินค้าที่มีความนิยมทางการตลาดเฉพาะกลุ่มที่สนใจ
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถเป็นทั้งเครื่องประดับและเป็นเครื่องรางของขลัง
ตามความเชื่อของคนโบราณ และเพื่อเป็นของที่ระลึกในการมาท่องเที่ยวหมู่บ้านช้างบ้านหนองบัว
และยังเป็นของฝากจากสุรินทร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม
มีเอกลักษณ์และยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่ กลุ่มเป็นอย่างมาก
และมีจำนวนการสั่งผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น
ในปัจจุบันมาสมาชิกการทำผลิตภัณฑ์ยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
1. กลุ่มตะขอช้าง
1.
นายสายฟ้า ศาลางาม ประธาน
2.
นายพร ผายสุวรรณ รองประธาน
3.
นายอุทัย ชินรัมย์ เลขานุการ
4.
นางคริษฐา ศาลางาม เหรัญญิก
5.
นายสมศักดิ์ ผายสุวรรณ กรรมการ
6.
นายฐิติพันธ์ มาดี กรรมการ
7.
นายมวล สุขเกิด กรรมการ
8.
นายสมศักดิ์ ผายสุวรรณ กรรมการ
2. กลุ่มพวงกุลแจหางช้าง
1.
นางวรรณา ศาลางาม ประธาน
2. นางบุญชู ศาลางาม รองประธาน
3.
นางปานขวัญ ศาลางาม เลขานุการ
4. นางสาวหยาดฝน ผายสุวรรณ กรรมการ
5.
นางสาวสมพร ศาลางาม กรรมการ
6.
นางสาวสุนีย์ ไกรเพชร กรรมการ
3. กลุ่มกำไลหางช้าง
1.
นายดาว หอมหวน ประธาน
2.
นายวรชัย พรมโสม รองประธาน
3.
นายสุข ยี่รัมย์ เลขานุการ
4.
นางสร้อยทอง เสียงเพราะ เหรัญญิก
5. นายเต้ก มาดี กรรมการ
6.
นายประชิด บุญเหลือ กรรมการ
7.
นางเอี่ยม ทรัพย์มาก กรรมการ
4. กลุ่มกระดูกแกะสลัก
1.
นายประสิทธิ์ อินทอง ประธาน
2.
นายอนุชา ศาลางาม รองประธาน
3.
นางเคน สุขจิตร เลขานุการ
4.
นางลิ ชินรัมย์ เหรัญญิก
4. นางวิลาวรรณ ศาลางาม กรรมการ
5. มีดควาญช้าง
1. นายบุญจันทร์ ศาลางาม ประธาน
2.
นายวิชัย แสนดี รองประธาน
3.
นายอนุชา ศาลางาม เลขานุการ
4.
นายปรมาธร ศาลางาม เหรัญญิก
5.
นายสรรธาร ศาลางาม กรรมการ
6. นายสายฟ้า ศาลางาม กรรมการ
6. กำไรฟันช้าง
1.
นายสนิท ศาลางาม ประธาน
2.
นายสุรเดช ศาลางาม รองประธาน
3.
นางกุลธิดา ศาลางาม เลขานุการ
4.
นายดี หอมหวน เหรัญญิก
5.
นางชมพู่ ศาลางาม กรรมการ
6.
นายสมหมาย ศาลางาม กรรมการ
7. กลุ่มแหวนหางช้าง
1.
นางธิดารัตน์ ผายสุวรรณ ประธาน
2.
นางจันทร์หอม หอมหวล รองประธาน
3. นางปทุมวรรณ ศาลางาม เลขานุการ
4.
นางชมพู่ ศาลางาม เหรัญญิก
5.
นางปานขวัญ ศาลางาม กรรมการ
6.
นางสาวหยาดฝน ผายสุวรรณ กรรมการ
7.
นายสายฟ้า ศาลางาม กรรมการ
8.
นางสุดสาคร ศาลางาม กรรมการ
8. กรอบรูปตะขอช้าง
1.
นายประชิต บุญเหลือ ประธาน
2.
นายดาว หอมหวน รองประธาน
3.
นางสาวสำรวย อินทร์สำราญ เลขานุการ
4.
นางเคน สุขจิตร เหรัญญิก
5.
นายนรินทร์ ศรีจันทร์ กรรมการ
6.
นางแต๋ว จันทะรัง กรรมการ
7.
นางสนอง แสนดี กรรมการ
9. กลุ่มพวงกุญแจตะขอช้าง
1.
นายปรมาธร ศาลางาม ประธาน
2.
นายเบิ้ม ศาลางาม รองประธาน
3.
นายเต้ก มาดี เลขานุการ
4.
นายนนท์ ใจสัตย์ เหรัญญิก
5.
นายไพรวัลย์ ศาลางาม กรรมการ
6.
นายสายฟ้า ศาลางาม กรรมการ
10. กลุ่มผ้าพันคอไหมย้อมขี้ช้าง
1.
นางแสนมณี ศาลางาม ประธาน
2.
นางแป หอมหวน รองประธาน
3.
นางประไพ ศาลางาม เลขานุการ
4.
นางโสม ศาลางาม เหรัญญิก
5.
นางอินทร์สำราญ อินทร์สำราญ กรรมการ
6.
นางลักษิกา ศรีสุข กรรมการ
7. นางพา ยี่รัมย์ กรรมการ
กิจกรรมกลุ่มผู้ปลูกพริกและเลี้ยงกบมีการสนับสนุนและส่งเสริมการดำเนินชีวิต
ตามโครงการชุมชนพอเพียงอย่างต่อเนื่อง
ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงส่งเสริมการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ลดต้นทุนการผลิต
และการเพิ่มกำไร โดยการปลูกผักสวนครัว รั้วกินได้ เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหาร เช่น
ไก่ เป็ด ปลา กบ เป็นต้น
แผนการพัฒนาหมู่บ้าน ให้สามารถเป็นชุมชนท่องเที่ยวOTOP
นวัตวิถี ปี พ.ศ.2561 โดยขอให้ระบุรายละเอียดแผนที่จะดำเนินโครงการกิจกรรมเพื่อการพัฒนาเป็นชุมชนท่องเที่ยวOTOP
นวัตวิถี (โดยวิเคราะห์ให้เห็นว่า
หากดำเนินการแล้วจะสามารถสร้างเพิ่มรายได้เพิ่มขึ้นเท่าไหร่
นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเยี่ยมชมเพิ่มขึ้นอย่างไร)
-
จัดศูนย์การเรียนรู้ข้อมูลของชุมชน
- จัดการปรับภูมิทัศน์
จุดบริการนักท่องเที่ยวภายในหมู่บ้านโฮมสเตย์และชุมชนหมู่บ้าน
-
จัดนำแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการเกษตร
และบรรจุภัณฑ์
-
จัดทำอุตสาหกรรมของกลุ่มแม่บ้านในชุมชน
(ทอผ้า)
-
จัดทำสวนสมุนไพรและนวดแผนโบราณ
-
การอนุรักษ์ปลูกป่าธรรมชาติและป่าชุมชน
โดยรวมเราได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า
OTOP
โดยการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากการทอผ้าไหม เป็นผ้าถุง เป็นชุดชาวกวย
และเป็นกระเป๋าสะพายหลายๆแบบ
คาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนในกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก
และนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในหมู่บ้านโฮมสเตย์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ดูได้จากการเข้ามาท่องเที่ยวทั้งแบบมาเช้าเย็นกลับ และพักค้างแรมในหมู่บ้าน
มีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยว
OTOP นวัตวิถีบ้านหนองบัว หมู่ที่ ๑๔ ตำบล กระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์โดยมีนายธวัชชัย
ศาลางาม ผู้ใหญ่บ้านหนองบัว เป็นประธาน คณะกรรมการ ฯ โดยแบ่งหน้าที่การบริหารงานออกเป็น
๔ ส่วน รวมจำนวน ๑๕ คน ดังนี้
๑.๑
คณะกรรมการบริหารจัดการ จำนวน ๕ คน
มีหน้าที่ในการประสานงาน/พัฒนาศักยภาพบุคลากร/จัดทำแผนการพัฒนา/บริหารจัดการงานทั่วไป
และงานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายโดยมีประธานฯ เป็นผู้กำกับดูแลหลัก
๑.๒ คณะกรรมการด้านบ้านพักโฮมสเตย์
จำนวน ๓ คน มีหน้าที่ในการบริหารจัดการบ้านพักโฮมสเตย์/มาตรฐานบ้านพักโฮมสเตย์/การจัดระเบียบบ้านพัก/การสร้างภาพลักษณ์ของบ้านพักโฮมสเตย์
๑.๓ คณะกรรมการด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ จำนวน
๓ คนมีหน้าที่ในการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น/การพัฒนาฝีมือการผลิต/ยกระดับผลิตภัณฑ์/ศักยภาพในการผลิต/ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์/การสร้างแบรนด์หรือโลโก้ของผลิตภัณฑ์/แหล่ง-ตลาดในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์
๑.๔
คณะกรรมการด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการบริการ จำนวน ๓ คน มีหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์สื่อต่าง
ๆ/ออกบูธจัดนิทรรศการ/จัดโปรแกรมการท่องเที่ยว/การสื่อ-ใช้ภาษาเพื่อการประชาสัมพันธ์/เพจเกจ-โปรโมชั่นการท่องเที่ยว/ปฏิทินท่องเที่ยวตามฤดูกาล
![]() |
คณะกรรมการหนองบัวโฮมสเตย์ |
๒. คนในชุมชนทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี
มีส่วนร่วมในการจัดการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี
๓. ข้อมูลชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ที่ชัดเจนและครอบคลุม
บ้านหนองบัว เป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับบ้านตากลาง
ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญในตำบลกระโพ
อีกทั้งในหมู่บ้านที่มีทรัพยากรชุมชนที่สำคัญที่นักท่องเที่ยว/ผู้ที่สนใจทั่วไป
สามารถเข้ามาท่องเที่ยวศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนกับช้าง
อีกทั้งยังมีภูมิปัญญา ประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆ
ที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับช้างให้เห็นได้อย่างชัดเจน
-วัดป่าอาเจียง
เป็นสถานที่สำคัญอย่างมาก
เพราะนอกเหนือจากการเป็นสถานที่พุทธศาสนิกชนให้ความศรัทธาทางพระพุทธศาสนาแล้ว
ยังเป็นที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับช้าง และแสดงความสัมพันธ์ของวิถีชีวิตของคนกับช้าง
(วิถีชีวิตกวยอาเจียง) อีกทั้งยังเป็นสถานที่ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมอาชีพด้านการทอผ้าไหมและการทำกระดาษสาจากมูลช้างด้วย
๔.
หมู่บ้านหนองบัว มีการนำทุนชุมชน ๕ ประเภท
และทุนทางวัฒนธรรม ๘ เสน่ห์ มาสร้างมูลค่าเพิ่ม
๔.๑ ทุนชุมชน ๕ ประเภท ได้แก่
ทุนมนุษย์ ทุนทางสังคม ทุนกายภาพ ทางธรรมชาติ และทุนการเงิน
- ทุนทางธรรมชาติ ได้แก่ ลำน้ำชี
ต้นก้ามปูริมสระน้ำหนองบัว
- ทุนการเงิน ได้แก่ กองทุนหมู่บ้านของบ้านหนองบัว ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ได้เข้ามาสนับสนุนเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว/บ้านพักโฮมสเตย์
๔.๒ ทุนทางวัฒนธรรม ได้แก่ อาหาร การแต่งกาย ที่อยู่อาศัย ประเพณี ภาษา
อาชีพ ความเชื่อ
-ทุนมนุษย์ ได้แก่ ปราชญ์ชุมชน/หลวงพ่อหาญ
(เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง)/หมอช้า